ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร เพื่อให้ตนมีโชคและลาภ ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต สายมูทั้งหลายไม่ควรพลาด

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น วันนี้จะพาสายมูเตลูมาทำความรู้จักกับ วัดดังเมืองโตเกียวที่ชาวญี่ปุ่น มาสักการะขอพรวัด และศาลเจ้าดังในโตเกียว

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ศาลเจ้าเป็นสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร เพื่อให้ตนมีโชคและลาภที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต มีศาลเจ้าหลายแห่งในญี่ปุ่นจึงที่มี ความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของการให้โชคลาภ และเสริมความร่ำรวยให้แก่ผู้ที่มาขอพร วันนี้เราขอพาสักการะขอพรวัด สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร และศาลเจ้าดังในโตเกียว

ที่สายมูทั้งหลายไม่ควรพลาด ขอแล้วสุขภาพดี ขอแล้วชื่อเสียงโด่งดัง ขอแล้วงานปัง ความรักไม่พังโชคลาภถามหา ที่สำคัญแต่ละที่ยังมีประวัติความเป็นมา และสถาปัตยกรรมรูปแบบเฉพาะของญี่ปุ่น ใครอยากดวงดีเป็นเศรษฐีตามมาทางนี้ เพราะเรารวบรวมไว้ครบทั้งหมด เรื่องความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับญี่ปุ่นมาช้านาน

อย่างเช่นการขอพรกับเทพเจ้าต่างๆ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง ถึงแม้ไม่มีตัวชี้วัดหรือตัดใจได้ว่า เป็นสิ่งที่ทำได้ผลสำเร็จผลจริงๆหรือไม่ แต่มันคือความเชื่อที่หล่อเลี้ยงจิตใจ เพื่อให้เกิดความสบายใจและช่วยเยียวยาทางจิตใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่นำพาเรา สู่ความสำเร็จหรือไม่ให้สิ่งไม่ดีนั้นๆเกิดขึ้นกับเรา

ก็เป็นได้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัด และศาลเจ้าเยอะมากๆซึ่งวัดและศาลเจ้า แต่ละที่ก็จะเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้า เรามักจะเห็นคนญี่ปุ่นเดินทางมาขอพรกันเยอะ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว ถือเป็นขนบธรรมเนียบปฏิบัติของญี่ปุ่นเลย ในการขอพรเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป

และเพื่อเป็นสิริมงคลให้ให้กับตัวเอง และครอบครัวรู้ไหมว่าที่โตเกียวเองก็มีวัด และศาลเจ้าดังหลายที่เลยที่เรียกว่าถ้ามีโอกาส ได้เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ควรพลาด ที่จะไปขอพรด้วยตัวเองสักครั้ง สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร ศาลเจ้าในญี่ปุ่น และแน่นอนว่าบทความนี้เราจะพาทุกคน ไปรู้จักกับวัดและศาลเจ้าดังในโตเกียว

ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังเฉพาะด้านจริงๆ สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ การงาน ความรัก โชคลาภ เชื่อกันว่าถ้าได้ไปขอพรตามวัดและศาลเจ้า อนิเมะ เหล่านี้แล้วจะปั๊วปังเลยเอาล่ะสายมูเตลู ถ้าไม่อยากพลาดตามเรามาเลย

วิธีขอพรวัด/ศาลเจ้าญี่ปุ่น

  • โยนเหรียญที่ต้องการทำบุญลงไปในกล่อง
  • หากมีกระดิ่งหรือระฆังให้สั่นกระดิ่งหรือระฆังก่อน
  • โค้งคำนับ2ครั้ง (หากเป็นวัดให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
  • ปรบมือ2ครั้ง (หากเป็นวัดให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
  • ประนมมืออธิษฐาน เมื่ออฐิษฐานเสร็จให้ให้โค้งคำนับ1ครั้ง

ศาลเจ้าฮานะโซโนะ ศาลเจ้าในญี่ปุ่น (Hanazono Shrine) เลื่องลือมากในเรื่องอะไร? มาดูไปพร้อมกันเลย

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine) สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว ศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุนี้เอง สร้างขึ้นในสมัยเอะโดะเป็นอีก 1 ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ในย่านที่ครึกครื้นแบนนี้ ก็มีศาลเจ้าดังแฝงตัวอยู่เป็นศาลเจ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่

แต่ความเคารพและความศรัทธาที่คนญี่ปุ่น มีให้กับศาลเจ้าแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก ที่นี่ยังเป็นอีกศาลเจ้าที่ในช่วงปีใหม่ คนนิยมเดินทางมาขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย “ศาลเจ้าฮานะโซโนะ” โด่งดังและเป็นที่เลื่องลือมากๆในเรื่องของ “หน้าที่การงาน” โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านสายบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นดารา ศิลปิน สายงานศิลปะ

รวมไปถึงสายงานด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน เชื่อว่าขอแล้วงานปังไม่ไหว ชื่อเสียงโด่งดัง ศาลเจ้าในญี่ปุ่น ศาลเจ้าฮานะโซโนะเป็นศาลเจ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ความเคารพและความศรัทธาที่คนญี่ปุ่น มีให้กับศาลเจ้าแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก ที่นี่ยังเป็นอีกศาลเจ้าที่ในช่วงปีใหม่คนนิยม เดินทางมาขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย

เอาจริงๆทุกสายอาชีพสามารถมาขอพร ที่นี่ได้หมดเลยปังๆทุกงานจ้า สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร อย่างเราเองก็ไปขอพรที่นี่ประจำ บอกได้คำเดียวว่าถ้าไม่เฮง ถ้าไม่ปังไม่มาแนะนำแน่นอน หลังจากขอพรเสร็จแล้วอย่าลืมบูชาเครื่องราง ของทางศาลเจ้าโตเกียวแห่งนี้ เพื่อเสริมดวงให้ปังยิ่งๆขึ้นไปด้วย

ศาลเจ้าในญี่ปุ่นศาลเจ้าคาราสุโมริ (Karasumori Shrine)

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าคาราสุโมริ (Karasumori Shrine) สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ กลางย่านชิมบาชิ(Shimbashi) ในกรุงโตเกียว ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านาน ตั้งแต่สมัยยุคเฮอันเดิมสมัยก่อนนั้น ที่นี่เป็นป่าสนทึบและมีอีกามาอาศัยกันอยู่จำนวนมาก

จึงได้เรียกที่นี่ว่า ​​”ป่าอีกา” จึงเป็นที่มาของชื่อ “คาราสุโมริ” ซึ่งชื่อนี้ถูกใช้เป็นชื่อเมืองในสมัยเมจิจนถึงปี1945 แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นShimbashi ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงชื่อเป็นทางออกKarasumori ของสถานีJR Shimbashi อีกด้วยและที่นี่อยู่ห่างจากสถานีชิมบาชิเพียง 2 นาทีเท่านั้น

เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังมากๆเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งเชื่อกันว่าใครที่ป่วย เป็นโรคมะเร็งหากไปขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะช่วยหยุดการลุกลามของมะเร็ง หรือใครยังไม่เป็นก็สามารถไปขอพร เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้แล้วยังขึ้นชื่อเรื่องตราประทับสีแดงอีกด้วย

เชื่อว่าตราประทับนี้จะช่วยผนึกโรคมะเร็ง ไม่ให้ลุกลามใครที่มีญาติ มีเพื่อนที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่ แนะนำเลยหรือไม่เป็นก็มาขอพรป้องกันได้ ที่นี่ถึงแม้จะเป็นเพียงศาลเจ้าเล็กๆ แต่มีความศักดิ์สิทธิ์มากบอกได้คำเดียวว่า ถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์คนไม่แห่มาขอพร กันเยอะขนาดนี้แน่นอน

ขอพรเสร็จอย่างลืมแวะบูชาเครื่องราง สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว เพื่อเสริมดวงกันด้วยนะ เครื่องรางแนะนำคือ “癌封じ御守” เป็นเครื่องรางกันมะเร็ง ให้ผู้ที่ป่วยมะเร็งเอาชนะมะเร็งทางจิตใจ ป้องกันเป็นมะเร็ง ผนึกและรักษามะเร็งให้หาย อ่านแล้วต้องหลอนเรื่องเล่าผีสุดหลอนมหาวิทยาลัย

ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin Shrine)

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin Shrine) สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี730 หรือราว 1,292 ปี ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เดิมตั้งอยู่ที่อื่น และเมื่อสมัยเอโดะถูกย้ายมาที่ตั้งปัจจุบัน ที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าไดโกกุเทน (เทพเจ้าแห่งความรัก)

เทพเจ้าเอบิสุ (เทพเจ้าแห่งการค้าขาย) และเทพเจ้าไทระโนะมาซาคาโดะ (ผู้ต่อต้านรัฐบาลเฮอัน) ศาลเจ้าคันดะเมียวจินตั้งอยู่ไม่ไกล จากย่านอาคิฮาบาระ สามารถเดินมาได้ประมาณ 700เมตรเท่านั้นแน่นอนว่าที่นี่เป็นอีก 1 ศาลเจ้าที่โด่งดังในโตเกียว ที่ผู้คนชาวโตเกียวให้ความเคารพ และศรัทธากันเป็นอย่างมาก

ผู้คนมักเดินทางมาสักการะขอพร เรื่องความรักเนื่องจากที่นี่เป็นที่สถิต ของเทพเจ้าแห่งความรักด้วย ว่ากันว่าใครที่อยากมีความรักที่ดีมาขอพรที่นี่แล้ว จะสมหวังในเรื่องความรัก (ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล) และนอกจากนี้คนที่ประกอบอาชีพค้าขายก็แนะนำเช่นกัน

เชื่อว่าถ้าขอพรแล้วจะช่วยให้ค้าขายร่ำรวย และเจริญห้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร ไม่เพียงเท่านี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นศาลเจ้า ที่ช่วยพิทักษ์เมืองโตเกียวให้ปลอดภัย จากอันตรายทั้งปวงอีกด้วย ขอพรเสร็จแล้วอย่างลืมแวะดูเครื่องราง ก่อนกลับด้วยนะและโดยเฉพาะคนที่ทำงาน ด้านสายไอทีที่นี่มีเครื่องรางไอทีให้บูชาอีกด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องรางยอดฮิตของศาลเจ้านี้เลย

ศาลเจ้าในญี่ปุ่นกับศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น01

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร ที่มีพื้นที่มากกว่า 430ไร่ตั้งอยู่ที่ย่านฮาราจู ภายในศาลเจ้าถูกล้อมรอบไปด้วย เหล่าต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกส่งมาจากทั่วญี่ปุ่นมากถึง 1 แสนต้นด้วยกัน ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิ

และพระราชินีโชเคงและสร้างขึ้นภายหลัง จากที่จักรพรรดิเมจิเสียชีวิตแล้ว คือปีค.ศ.1915สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกทำลายและได้รับความเสียหายอย่างหนัก และได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ศาลเจ้าเมจินับเป็นศาลเจ้าที่ความสำคัญ มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆถึงขั้นบุคคลสำคัญ

อย่างประธานาธิปดีจอร์จ วอล์กเกอร์ บุช , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน และรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมัน กีโด เว็สเทอร์เว็ลเลอ ยังเดินทางมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่คนนิยมมา ขอพรกันเยอะมากๆอีกแห่งหนึ่งและเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าดัง

ที่คนนิยมเดินทางมาขอพรกัน ในช่วงปีใหม่อีกด้วยแน่นอนว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่นี่คับคั่งด้วยเหล่าฝูงชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาขอพร ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่คืนสิ้นปี ไปจนถึงวันที่ 3-4 ของเดือนมกราคมเลย มาศาลเจ้าเมจิต้องขอพรเรื่องอะไร ทุกคนน่าจะอยากรู้กันศาลเจ้าเมจิเป็นเรียกว่าเป็น

ศาลเจ้าแห่งความรัก คนที่มาที่นี่ต้องมาขอพรเกี่ยวกับความรัก จะได้มีความรักที่ดีมีความรักที่ยืนยาว และมีคู่ครองที่ดีและด้วยความศักดิ์สิทธิ์ คนจึงนิยมมาแต่งงานกันที่นี่เยอะเลย ศาลเจ้าในญี่ปุ่น นอกจากเรื่องความรักแล้ว คนนิยมขอพรเรื่องสุขภาพกันด้วย

สายสุขภาพก็ไม่ควรพลาด ที่จะมาขอพรที่นี่เช่นเดียวกัน สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว เพื่อเสริมความเป็นความมงคลให้กับตัวเอง และครอบครัวหากมีโอกาสเดินทางมา ที่โตเกียวอย่าลืมที่จะแวะมาสักการะสักครั้งนะ

วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)

ศาลเจ้าในญี่ปุ่น02

วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดโคมแดง สายมูห้ามพลาดศาลเจ้าและวัดดังในย่านโตเกียว สถานที่ที่หลายคนรู้จักกันดีซึ่งเป็น 1 ในแลนด์มาร์คหลักของโตเกียว ที่ไปใครโตเกียวครั้งแรกก็ต้องหยิบใส่ในแพลนไปด้วย และเป็นที่กล่าวขานกันว่าเสี่ยงเซียมซีที่นี่แม่นสุดๆเลย

วัดเซนโซจิตั้งอยู่ในย่าน Asakusa ของโตเกียว ที่นี่เป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านาน จริงๆแล้ววัดแห่งนี้เคยถูกทำลายไปในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง สถานที่แห่งนี้เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ ของโตเกียวเลยก็ว่าได้

เมื่อใครเห็นเป็นต้องรู้ว่าคือโตเกียว ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่มีขนาดเพียง 5.5 เซ็นติเมตร ตรงซุ้มประตูทางเข้าวัดจะพบกับโคมแดงขนาดใหญ่ ที่เรียกว่าเป็นอีกมุมฮอตที่ใครมา จะต้องถ่ายรูปคู่กับโคมแดง เพื่อให้รู้ว่ามาถึงวัดเซนโซจิแล้วนะ

และนี่จึงเป็นที่มาที่นักท่องเที่ยวเรียกวัดแห่งนี้ว่า “วัดโคมแดง” นั่นเองว่ากันว่าเมื่ออดีตวัดแห่งนี้เป็นวัด ที่ไม่ว่าจะประชาชนหรือแม้แต่ท่านโชกุน และซามูไรต่างก็มาสักการะและขอพร ที่วัดแห่งนี้กันและเป็นที่เลื่องลือว่าผู้ที่มาขอพรนั้น ต่างก็สมปรารถนาจึงทำให้ชื่อเสียงเรื่องขอการขอพรนั้น

กระจายเป็นที่รู้จักกันไปอย่างแพร่หลาย จึงกลายเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่น ให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามา สักการะขอพรที่นี่กันอย่างไม่ขาดสาย แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังมากๆ เรื่องการขอพรที่ไม่ว่าใครมาขอพรอะไร ก็มักจะเกิดผลสำเร็จ นอกจากนี้การเสี่ยงเซียมซีที่นี่ ก็ไม่น้อยหน้ากันเลยว่ากันว่าแม่นมาก

แม่นไม่แม่นให้ไปลองกันด้วยตัวเองดูนะ สถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพร สำหรับเราแล้วเคยเสี่ยงเซียมซี และขอพรที่นี่เป็นประจำ บอกเลยว่าเด็ดจริงแนะนำให้ไป หลังจากสักการะขอพรเสร็จ อย่าลืมเดินซื้อขนมของฝากของระลึกได้ที่ถนนช้อปปิ้ง “นากามิเซะ (Nakamisedori)” กันด้วยนะมีขออร่อยๆเพียบเลย