วัดเซนโซจิ เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ในเมืองโตเกียว เรียกขานกันทั้งวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง

วัดเซนโซจิ วันนี้จะพามารู้จักกับวัดดังในเมืองโตเกียว ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปกราบสักการะ และมาขอพรวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะ

วัดเซนโซจิ ที่มีหลายๆชื่อที่คนนิยมเรียกขานกันทั้ง วัดอาซากุสะหรือวัดโคมแดง เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะและเป็นหนึ่งหนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว ในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาว เข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย

บอกเลยว่านักท่องเที่ยวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครไม่รู้จักวัดนี้แน่นอนยิ่งในหมู่คนไทย แล้วล่ะก็เรียกได้ว่าถ้าไปโตเกียวต้องไปแวะเที่ยวชมวัดนี้ วัดเซนโซจิ แทบจะทุกคนโดยภาพส่วนใหญ่ก็จะเห็นภาพพื้นหลังเป็นโคมแดงอันใหญ่ๆ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญมากๆ ของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว

ความนิยมเห็นง่ายๆเลยจากการที่มีผู้คน เดินทางมาสักการะและเที่ยวชมได้ทั้งตัววัด และบริเวณภายนอกแบบไม่ขาดสายเลย เป็นวัดพุทธในย่านอาซากูซะ เขตไทโต โตเกียว เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุด แห่งหนึ่งในโตเกียวสถานที่ดั้งเดิมถูกระเบิด เผาทำลายไปเกือบหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่2

ตัววัดปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุดแรกเริ่มเคยเป็นวัดในสายเท็นได ต่อมาได้แยกเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณติดกับวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาซากูซะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต อนิเมะ

วัดเซนโซจิ

มาดูถึงประวัติของ วัดเซนโซจิ ว่าจะมีความเป็นมาอย่างไร? ถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่นทุกคน

วัดเซ็นโซจิ วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด นี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระโพธิสัตว์คันนง ตามตำนานกล่าวไว้ว่าประมาณปีค.ศ.628 มีชาวประมง2พี่น้องชื่อว่า ฮิโนกูมะ ฮามานาริ และฮิโนกูมะ ทาเกนาริ ทุกวันจะออกหาปลาที่แม่น้ำซูมิดะ มีอยู่วันหนึ่งวันนั้นทั้งวันจับปลาไม่ได้สักตัว

จึงอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้จับปลาได้สักตัว เพื่อกลับไปทานเป็นอาหารเย็น พอเหวี่ยงแหออกไปสิ่งที่ติดแหขึ้นมา กลับเป็นเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำสูง5นิ้ว จึงนำไปให้หัวหน้าหมู่บ้านของทั้งสองชื่อว่า ฮาจิโนะ นากาโมโตะ หัวหน้าหมู่บ้านได้ตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ ขององค์เจ้าแม่กวนอิม

จึงได้เปลี่ยนแปลงบ้านของตนในอาซากูซะ ให้กลายเป็นวัดขนาดเล็ก เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ทั้งชาวบ้านและเหล่าซามูไรมักจะเดินทางมา ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นประจำ และสิ่งที่ขอพรไปนั้นก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอๆ

ทำให้ชาวบ้านและเหล่าซามูไร มีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่กวนอิมนี้ ได้แพร่กระจายไปทั่วญี่ปุ่น มีคนจากทั่วสารทิศเดินทางมาวัดเซ็นโซจิ เพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมจนล่ำลือไปถึงท่านโชกุน ท่านโชกุนจึงได้ให้มีการสร้างอาคารหลังใหญ่ขึ้นในปีค.ศ.645

และต่อเติมส่วนต่างๆเรื่อยมา อย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองปีค.ศ.1945 อาคารส่วนใหญ่ของเซ็นโซจิ หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว ได้รับความเสียหายจากการถูกทิ้งระเบิด และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในภายหลัง ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ และความสงบสุขให้กับคนญี่ปุ่น

วัดเซนโซจิ

วัดเซนโซจิเป็นสถานที่จัดเทศกาล ที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด

เซ็นโซจิเป็นสถานที่จัดเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว และได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว เทศกาลมีระยะเวลา3-4วัน ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างนี้ถนนใกล้เคียงจะปิดการจราจรตั้งแต่เช้าจนถึงหัวค่ำ ที่ทางเข้าวัดมีประตูขนาดใหญ่เรียกว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ “ประตูอสุนี”

บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่ มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ที่มีรูปสายฟ้าและเมฆเขียนด้วยสีดำและแดง ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนง (Kannon Bosatsu) หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมที่คนไทยรู้จัก ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่น

และชาวต่างชาติจำนวนมาก เดินทางมาเยี่ยมชมเซ็นโซจิ บริเวณรอบๆวัดจึงมีร้านค้าขายสินค้า และอาหารพื้นเมืองญี่ปุ่นมาวางขายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ถนนนากามิเซะ ซึ่งทอดยาวตั้งแต่ประตูสายฟ้าไปจนถึงบริเวณวัด สองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ

ขายของที่ระลึกต่างๆเช่น พัด ภาพวาดแผ่นไม้ ชุดกิโมโน เสื้อคลุมแบบต่างๆ ม้วนภาพเขียน ขนมหวานพื้นเมือง ไปจนถึงหุ่นยนต์ของเล่น เสื้อยืด หรือของประดับโทรศัพท์มือถือ ตู้บริจาคใบโต ไกด์แนะนำว่าให้โยนเหรียญบริจาคลงไป

และควรจะบริจาคเป็นเหรียญที่มีเลข 5 ทั้ง 5เยน 50เยนหรือ 500เยน วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด ซึ่งให้ความหมายที่ว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ในบริเวณวัดยังมีสวนที่เงียบสงบ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาให้เป็นสวนแบบญี่ปุ่น ไว้ได้อย่างดี

จุดท่องเที่ยวในวัดอาซากุสะ

จุดแรกที่พลาดไม่ได้ก็คือ โคมสีแดงใหญ่ถึง3เมตรที่ซุ้มประตูทางเข้าวัด วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด ตรงจุดนี้คือไฮไลท์ที่สุดของวัดแล้ว ทุกคนจะแวะกันมาถ่ายรูปตรงจุดนี้ เดินต่อไปก็จะเป็นส่วนของตัววัด ที่สามารถเข้าชมได้ฟรีและเจดีย์5ชั้น ภายในวัดที่สูงถึง64เมตรและสวยงามมาก

นอกจากนี้จะมีความเชื่อในเรื่องของ กระถางธูปหน้าวัด ที่เชื่อว่าถ้ากวักเอาควันธูปเข้าหาตัว จะนำความโชคดีมาให้ทำให้ตรงจุดนี้ มีนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเองมากวักควันธูป เข้าหาตัวกันมากมายทีเดียว นอกจากนี้การทำบุญด้วยเหรียญโกะเอน (Go-en) หรือเหรียญ5เยน จะทำให้โชคดียิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากนี้สำหรับคนที่อยากได้ความโชคดี เต็มเม็ดเต็มหน่วยกลับไปก็สามารถ เช่าเครื่องรางของทางวัดที่ต้องอำนวยอวยพร ในเรื่องต่างๆทั้งสุขภาพ การเงิน การงาน การเรียน หรือเรื่องเนื้อคู่ กลับไปได้อีกด้วย หลังจากขอพรทำบุญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับมาเดินเล่นที่ด้านหน้าของวัดกันบ้าง

ตรงด้านนี้จะเป็นคล้ายๆย่านการค้า ที่มีร้านรวงเปิดขายของที่ระลึกต่างๆ ร้านขนม ร้านของฝาก และอื่นๆถึง2ซอยด้วยกันเดินทะลุผ่านวัดมา ที่ด้านข้างของตัววัด เราจะเจอทางเดินไปยัง ย่านการค้าอีกแห่งซึ่งจุดนี้มีไฮไลท์ตรงเมล่อนปัง ของอร่อยที่พลาดไม่ได้

หากมาถึงวัดอาซากุสะ แน่นอนว่ามีรสชาติต่างๆให้เลือกอร่อย แถวยาวมากๆทีเดียว อบเสร็จใหม่ๆอร่อยสุดๆ แป้งนุ่มนิ่มมากๆ ใครมาถึงที่นี่ต้องมาแวะชิมให้ได้ สำหรับช่วงเวลาที่เรามานั้น เป็นช่วงปลายๆฤดูใบไม้ผลิแล้ว ทำให้อากาศร้อนหน่อยๆมีแดดพอสมควร ถ้ามาให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วง

บรรยากาศวัดก็จะสวยมากๆกว่านี้อีก อีกทั้งในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว จะเป็นสถานที่จัดเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด และได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว เทศกาลมีระยะเวลา3-4วัน ระหว่างนี้ถนนใกล้เคียงจะปิดการจราจร ตั้งแต่เช้าจนถึงหัวค่ำเลย

วัดเซนโซจิ

วัดเซนโซจิมีชื่อเสียงเรื่องเซียมซี

วัดเซ็นโซจิค่อนข้างมีชื่อเสียง หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว เรื่องเซียมซีหลายคนบอกปากต่อปากกันว่า แม่นที่นี่เป็นเซียมซีแบบโบราณ วิธีการเสี่ยงเซียมซีก็เริ่มจากหยอดเหรียญ100เยน ลงกล่องหยิบกระบอกเซียมซีมาเขย่า ได้เลขอะไรก็ไปรับคำทำนาย ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ค่อยดีก็เอาคำทำนายไปผูกไว้กับวัด

วัดเซ็นโซจิ วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด เคยมีประเด็นว่าคนมาเสี่ยงเซียมซี มักจะได้แต่ใบโชคร้ายจนทางวัดออกมาให้ข้อมูลว่า ใบโชคร้ายจะมีเพียง30% และที่เหลือ70%จะเป็นใบโชคดีมาก–โชคดีน้อย บางคนก็ออกมาให้ความเห็นว่าการที่มีใบโชคร้าย30% ก็เพื่อว่าทางวัดจะได้ขายเครื่องลาง แก้เคล็ดได้เพิ่มก็เป็นเรื่องของความเชื่อแต่ละคน

เครื่องรางของดีที่ต้องมีติดตัว

เครื่องรางวัดอาซากุสะหรือโอะมาโมริ วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด เป็นเครื่องรางที่ได้รับการกล่าวขานว่า มีความขลังมากและมีหลากหลายแบบมาก ทั้งเครื่องราง การงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ โชคลาภ ช่วยเสริมดวง และให้สมหวังในเรื่องต่างๆ

ใครที่มาเยือนวัดอาซากุสะ ก็มักนิยมซื้อเครื่องรางติดไม้ติดมือ กลับไปเป็นของที่ระลึกของฝาก หรือพกติดตัวไว้เพื่อเสริมดวงให้สมหวัง ให้มีโชคมีลาภ ใครมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องโชค เรื่องดวงก็อย่าลืมหามาบูชากัน และที่วัดอาซากุสะจะมีสถานที่สำหรับ ทิ้งและทำลายเครื่องรางเก่าอยู่

เรียกว่า “สถานที่สำหรับสะกดป้ายเครื่องราง” กรณีเครื่องรางที่มีบูชามานาน และเก่ามากแล้วหรือบูชามาครบปีแล้ว อยากเปลี่ยนเครื่องรางใหม่ ก็ให้เอามาหยอดใส่ตู้ที่จุดนี้ (แนะนำว่าดีกว่าการพยายามทำลายด้วยตัวเอง)

หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว แต่มีข้อควรระวังอยู่ข้อหนึ่ง คือเครื่องรางที่บูชามาจากศาลเจ้าก็ให้นำกลับไปที่ศาลเจ้า และหากบูชาเครื่องรางมาจากวัด ก็ให้นำกลับไปให้ที่วัดเป็นผู้จัดการทำลายให้

เวลาทำการ

  • อาคารหลักวัดอาซากุสะเปิด 6:00–17:00น. (ช่วงตุลาคม–มีนาคม เปิด6:30น.)
  • ร้านค้าถนนนากามิเสะ เปิดประมาณ 9:00-19:00น.

วิธีการเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดินTokyo Metro สายGinza มาลงที่สถานีAsakusa (เดินประมาณ1นาที)
  • นั่งรถไฟใต้ดินToei สายAsakusa มาลงที่สถานีAsakusa (เดินประมาณ1นาที)
  • นั่งรถไฟสายTobu SKYTREE มาลงที่สถานีTobu Asakusa (เดินประมาณ5นาที) 

วัดเซนโซจิ

ช้อปปิ้งที่ถนนนากามิเสะ (Nakamise)

ถนนนากามิเสะตั้งอยู่ตรงด้านหน้าทางเข้าวัด หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองโตเกียว เป็นถนนสายช้อปปิ้งเพราะมีร้านค้า ร้านอาหารร้านขนมร้านขายของฝาก ตั้งอยู่มากมายตลอดสองข้างทาง ที่ทอดยาวกว่า200เมตร ไปจนถึงด้านในของวัดสามารถหาซื้อขนม ชุดยูกาตะ พัดญี่ปุ่น ร่ม พวงกุญแจ และของฝากต่างๆได้จากที่นี่ได้เลย

บริเวณถนนนากามิเสะมีขนมญี่ปุ่นเยอะมาก เช่นขนมคิบิดังโงะ (Kibi Dango) ขนมที่ทำจากแป้งคิบิดังโงะหนึบๆ นุ่มๆ คลุกถั่วเหลือง รสชาติหวาน ซึ่งเป็นสูตรโบราณตั้งแต่สมัยเอโดะ ขนมแป้งทอดจากร้านคิมุระยะ (Kimuraya)

ที่ทำจากไข่และแป้งสูตรพิเศษ วัดใหญ่ในย่านอาซากุสะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปมากที่สุด ที่ปรุงอย่างดีพร้อมพิมพ์ลวดลาย เป็นรูปเจดีย์ห้าชั้นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า แล้วนำไปทอดร้อนๆให้เราได้ทานกัน นอกจากนี้ยังมีขนมมันจู เซมเบ้ เครื่องดื่มชาเขียว และอื่นๆอีกมากมาย