วัดพระธาตุพนม พระบรมธาตุที่แสดงถึง ความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนา ของนครพนม

วัดพระธาตุพนม วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ พระธาตุประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิดปีนักษัตรวอก

วัดพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบันมี พระเทพวรมุนี เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส

ก่อด้วยอิฐกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า (เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่ เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึงแรม 1 ค่ำเดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปี

เพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม พุทธศาสนิกชนที่ได้มาเยี่ยมเยียน จากทั่วสารทิศทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ได้สืบต่อความเชื่อกันมาจากบรรพบุรุษ ว่ากันว่าหากใครได้มา นมัสการพระธาตุครบ ๗ ครั้ง พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ดูบอล

วัดพระธาตุพนม 

มาดูถึงประวัติของ วัดพระธาตุพนม ว่ามีตำนานเล่าขานกันมาอย่างไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันเลย

ตามตำนานพระธาตุพนม พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก ในอุรังคนิทานกล่าวว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยทางอากาศได้มาลงที่ ดอนกอนเนา แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ (เวียงจันทน์) ได้พยากรณ์ไว้ว่า

ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา จากนั้นได้เสด็จไปตามลำดับ ได้ทรงประทานรอยพระพุทธบาทไว้ที่ โพนฉัน (พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แล้วเสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน

ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมือง มรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขง ไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูรณ์ พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงฮังเมืองสุวรรณเขต) แล้วกลับมาทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) ที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ พญาอินทร์ได้เสด็จมาเฝ้า

และทูลถามพระพุทธองค์ ถึงเหตุที่มาประทับที่ภูกำพร้า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3พระองค์ ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำ พระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์เมื่อนิพพานแล้ว พระมหากัสสปะผู้เป็นสาวก ก็จะนำเอาพระบรมสารีริกธาตุ

มาบรรจุไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน จากนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรง ปรารภถึงเมืองศรีโคตบูรและมรุกขนคร แล้วเสด็จไปหนองหารหลวง ได้ทรงเทศนาโปรดพญาสุวรรณพิงคาระ และพระเทวี ประทานรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นั้น แล้วเสด็จกลับพระเชตวัน หลังจากนั้นก็เสด็จปรินิพพาน ที่เมืองกุสินารา

เมื่อพระพุทธองค์ เสด็จปรินิพพานแล้ว มัลลกษัตริย์ทั้งหลายได้ถวายพระเพลิงพระสรีระ แต่ไม่สำเร็จจนเมื่อ พระมหากัสสปะมาถึงได้อธิษฐานว่า พระธาตุองค์ใดที่จะอัญเชิญ ไปประดิษฐานที่ภูกำพร้า ขอพระธาตุองค์นั้นเสด็จมาอยู่บนฝ่ามือ ดังนี้แล้ว พระอุรังคธาตุ ก็เสด็จมาอยู่บนฝ่ามือขวา ของพระมหากัสสปะ

ขณะนั้นไฟธาตุก็ลุกขึ้นโชติช่วง เผาพระสรีระได้เองเป็นอัศจรรย์ เมื่อถวายพระเพลิง และแจกพระบรมสารีริกธาตุ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500องค์ ก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ มาทางอากาศ แล้วมาลงที่ดอยแท่น (ภูเพ็กในปัจจุบัน) วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางสวยงามด้วยสถาปัตยกรรม

จากนั้นได้ไปบิณฑบาตที่เมือง หนองหารหลวง เพื่อบอกกล่าวแก่พญาสุวรรณพิงคาระ ตำนานตอนนี้ตรงกับตำนานพระธาตุเชิงชุม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพระธาตุนารายณ์เจงเวง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่แล้ว

วัดพระธาตุพนม

การอัญเชิญพระอุรังคธาตุวัดพระธาตุพนม เข้าบรรจุภายในที่อันสมควร

พระมหากัสสปะก็ได้ อัญเชิญพระอุรังคธาตุ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เข้าบรรจุภายในที่อันสมควร แล้วให้ปิดประตูอุโมงค์ไว้ทั้ง 4ด้าน โดยสร้างประตูด้วยไม้ประดู่ ใส่ดาลปิดไว้ทั้ง 4ด้าน แล้วให้คนไปนำเอาเสาศิลาจาก เมืองกุสินารา 1ต้น มาฝังไว้ที่มุมเหนือตะวันออก แปลงรูปอัศมุขี (ยักษิณีหน้าเป็นม้า)

ไว้โคนต้นเพื่อเป็นหลักชัยมงคล แก่บ้านเมืองในชมพูทวีป นำเอาเสาศิลาจากเมืองพาราณสี 1ต้น ฝังไว้มุมใต้ตะวันออก แปลงรูปอัศมุขีไว้โคนต้น เพื่อหมายมงคลแก่โลก นำเอาเสาศิลาจากเมืองตักศิลา 1ต้น ฝังไว้มุมเหนือตะวันตก พญาสุวรรณพิงคาระ ให้สร้างรูปม้าอาชาไนยไว้ตัวหนึ่ง หันหน้าไปทางทิศเหนือ

เพื่อแสดงว่าพระบรมธาตุ เสด็จออกมาทางทิศทางนั้น พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก และพระพุทธศาสนาจักเจริญรุ่งเรือง จากเหนือเจือมาใต้ พระมหากัสสปะ ให้สร้างม้าพลาหกไว้ตัวหนึ่งคู่กัน หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อเป็นปริศนาว่า พญาศรีโคตบูรจัก ได้สถาปนาพระอุรังคธาตุไว้ตราบเท่า 5,000พระวัสสา เกิดทางใต้และขึ้นไปทางเหนือ

เสาอินทขีล ศิลาทั้ง 4ต้น ยังปรากฏอยู่ 2ต้น ทางทิศตะวันออก ส่วนอีก 2ต้นได้ก่อหอระฆังหุ้มไว้ ส่วนม้าศิลาทั้ง 2ตัว ก็ยังปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน พระธาตุพนมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ มาตามลำดับการบูรณะครั้งแรก และครั้งที่สองไม่ได้บันทึกปีที่บูรณะไว้ การบูรณะครั้งที่สามเมื่อปี พ.ศ. 2157

ลูกพระธาตุพนม อาจหมายถึง ผู้ที่เกิดในพื้นที่จังหวัดนครพนม พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก หรือมีภูมิลำเนาในจังหวัดนครพนม หรือว่ากันว่า ถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” หมายถึงผู้คนที่มีส่วนร่วม ในการก่อสร้างพระธาตุพนม

ปีพ.ศ.2485 ยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก

เมื่อปีพ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2518 เวลา 19.38 น. ด้วยเหตุที่มีฝนตกพายุพัดแรง ติดต่อมาหลายวันและความเก่าแก่ ขององค์พระธาตุ

วัดพระธาตุพนม จึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุ ขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว

ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น บรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม โบราณวัตถุรอบๆ องค์พระธาตุพนม เป็นของที่มีมาแต่ครั้งสมัยศรีโคตบูร ถึงล้านช้างและสมัยอยุธยา โดยเฉพาะสมัยศรีโคตบูรนั้นได้แก่

หลักศิลาและเสมาหิน ซึ่งปักอยู่ตามทิศต่างๆ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ที่เรียกกันว่า เสาอิทขีล ซึ่งจะมีสัตว์ชื่อ อัสมุขี อัสมุขี แปลว่า อัสส = ยักษ์ มุข = หน้า สัตว์ที่รูปร่างเป็นม้า มีหน้าเป็นยักษ์

วัดพระธาตุพนมกับปฏิทินงานวัด

  • งานนมัสการพระธาตุพนม ตรงกับขึ้น 8 ค่ำ เดือน3 ถึงแรม 1 ค่ำเดือน 3 รวม 9 วัน 9 คืน
  • งานพระธาตุพนมรำลึก และมอบทุนการศึกษาแก่ผู้สอบได้บาลี วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตรงกับวันที่ 11 สิงหาคม ของทุกปี
  • งานสัตตนาคารำลึก งานรำลึกถึงพญานาคทั้ง 7 ตน ที่ดูแลพระธาตุพนม ตรงกับขึ้น 5 ค่ำเดือน 11 (งานเริ่ม 4 ค่ำ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ถึง 5 ค่ำ ตอนเช้า)
  • งานบูรพาจารย์รำลึก ทำบุญอุทิศให้อดีตเจ้าอาวาส และบูรพาจารย์ของวัดพระธาตุพนม ตรงกับขึ้น 8 ค่ำเดือน 11
  • วันมหาปวารณาออกพรรษา รำบูชาพระธาตุพนม ตรงกับวันออกพรรษาของทุกปี
  • สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ณ ลานหน้าวัดพระธาตุพนม พระธาตุพนมพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก เริ่มลงทะเบียนรับหนังสือสวดมนต์ เวลา 18.00 น. ถึงเช้า