ตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น วันนี้จะพามาดูถึงเรื่องราวความเชื่อ และตำนานเทพเจ้า ของประเทศญี่ปุ่น
ตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นเป็น 1 ในประเทศ ที่มีความเชื่อเรื่องเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มาตั้งแต่โบราณ ถึงทุกวันนี้อิทธิพลของความเชื่อ เดิมจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่เราก็ยังคงได้เห็นเรื่องราวของ เทพเจ้าญี่ปุ่น ผ่านทางสื่อใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นมังงะ อนิเมะ เกม และหนังอยู่เสมอ ชนิดที่ว่าเห็นปุ๊บเราจะคุ้นเลยว่า เป็นเทพองค์ไหน ดังนั้นเราเลยรวบรวมเอา เทพเจ้าญี่ปุ่น ชื่อดังมาฝากใครที่สนใจเรื่องราว ตำนานเทพแดนอาทิตย์อุทัยกัน มาดูไปพร้อมๆกันเลย ดูซีรี่ย์
มาดูถึง ตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น อิซานางิ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร? ไปดูพร้อมกันเลย
อิซานางิ เทพกำเนิด เจ้าแห่งท้องฟ้า,แสงสว่าง และสรวงสรรค์ มีง้าวเป็นอาวุธ มีภรรยาและน้องสาวคือ อิซานามิ ปฐมเทพี เจ้าแห่งโลก,ผืนแผ่นดิน และความมืด มีกระจกทองแดงห้อยคอ เป็นของวิเศษประจำตัว ซึ่งส่องแสงระยิบระยับ ทำให้โลกอันมืดมิดสว่างขึ้น
แสงสว่างจากกระจกทองแดง ได้สะท้อนกับละอองน้ำในอากาศ ท่ามกลางหมู่เมฆที่รวมตัวกัน ก่อกำเนิดสะพานสายรุ้ง อามา โน อูกิฮาชิ ซึ่งลอยไปถึงสรวงสรรค์ เมื่ออิซานามิได้เห็นสะพานสายรุ้ง ก็ได้กล่าวขึ้นว่า “อา ช่างเป็นสายรุ้งที่สวยงามอะไรเช่นนี้ เราลองปีนขึ้นไปบนสายรุ้งกันเถิด”
แล้วทั้งสองก็ปีนขึ้นไป บนสะพานสายรุ้ง และมองลงไปที่พื้นดิน อิซานามิ ก็กล่าวขึ้นว่า “พื้นดินเป็นทะเลโคลนเช่นนี้ คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถอยู่ได้ และเราก็ไม่สามารถ สร้างวังของเราขึ้นที่นี่ได้” ว่าแล้วอิซานางิก็เอาง้าวของเขา จุ่มลงในทะเลโคลนแล้วกวนให้น้ำ แยกออกจากดิน
ไปวนอยู่รอบๆบริเวณ และดินโคลนทั้งหลาย ก็รวมตัวอยู่ตรงกลาง เมื่อดึงง้าวขึ้นมา โคลนที่ติดอยู่กับง้าวก็หยดลงมา กลายเป็นเกาะโอโนโกโร เป็นเกาะแรกของหมู่เกาะญี่ปุ่น ที่ซึ่งเทพเจ้าและมนุษย์ ได้อาศัยกำเนิดขึ้นมา ทั้งคู่ได้สร้างเกาะญี่ปุ่น 40 เกาะและให้กำเนิดเทพ 36 องค์
องค์สุดท้ายคือ คากูทซึชิ เทพแห่งไฟ ที่เมื่อคลอดออกมาก็เผาผลาญ อิซานามิจนตายไปอยู่นรก และกลายเป็นเทพีผู้ปกครองนรกบาดาล หลังจาก อิซานามิตาย อิซานางิ ก็เอาแต่โศกเศร้า และเฝ้าคิดถึงภรรยา จึงลงไปหาภรรยาในนรก แต่เมื่อได้พบ อิซานางิ ก็ตกใจกับรูปลักษณ์ของภรรยา
ที่เน่าเปื่อยกลายเป็นผี ที่น่าเกลียดและแสดงอาการ รังเกียจออกมาแต่ก็ได้ร้องขอให้เธอ กลับไปครองรักกันเหมือนเดิม แต่ อิซานามิ เห็นอาการของสามีที่รังเกียจตน จึงปฏิเสธไม่ยอมกลับไปด้วย ทั้งสองจึงแยกจากกันชั่วนิรันดร์ หลังจาก อิซานางิ กลับมาจากนรก
อิซานางิ รังเกียจภรรยาที่กลายเป็นผี จึงปิดผนึกปากถ้ำที่เป็นทางลง ไปสู่นรกด้วยความโกรธ ที่สามีของตนรังเกียจตน จึงอธิษฐานให้มนุษย์ ตายวันละ 1,000 คน แต่อิซานางิ ก็อธิษฐานให้มนุษย์เกิดขึ้นมาวันละ 1,500 คน หลังจากนั้น อิซานางิ ได้ทำพิธีชำระล้างมลทินเป็นครั้งแรก
เขาล้างตาซ้ายของเขา มีน้ำตาหยดออกมา หลอมตัวก่อกำเนิดเป็น เทพีแห่งสุริยะ อามาเตราซุ เมื่อเขาล้างตาขวาของเขา น้ำตาร่วงหล่น หยดออกมา หลอมตัวก่อกำเนิดเป็น เทพแห่งจันทรา สึกูโยมิ เป็นอันดับถัดมา และน้ำมูกจากจมูกของเขา ได้ให้กำเนิดซูซาโนโอะ เทพแห่งวายุ แทงบอลโลก
บิชามอนตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น เทพแห่งอัศวินและเหล่านักรบ
ตามตำนานของญี่ปุ่น ท่านเป็น 1 ในอสูรปกครองศักดิ์สิทธิทั้ง 4 หรือ เต่าดำแห่งทิศเหนือ ของจีน นั่นเอง หรือถ้าตามตำนานอินเดีย ท่านเป็นหนึ่งในจตุโลกบาล หรือเทพผู้คุ้มครองทิศทั้งสี่ โดยความเชื่อฝ่ายพุทธหรือพราหมณ์ รู้จักท่านในนามของ ท้าวกุเวร หรือ “ท้าวเวสสุวรรณ”
(ชื่อสำเนียงญี่ปุ่นก็ยังมีความใกล้เคียง กับคำว่า เวสสุวรรณ) เทพดาประจำทิศเหนือนั่นเอง ท่านมีชื่ออื่นตามตำนานอื่นๆในเอเชียด้วย ชื่อต่างๆซึ่งล้วนแต่แปลว่า ผู้ฟังมาก (เชื่อกันว่าท่านเป็นเทพที่คอยปกป้อง พระพุทธเจ้าขณะที่พระองค์แสดงพระธรรมเทศนา)
ตามตำนานญี่ปุ่น บิชามอนเท็น เป็นเทพแห่งสงครามผู้ขับไล่ ปีศาจต่างๆที่เป็นอัปมงคล และรวมถึงปกป้องทรัพย์สินในบ้าน จากภัยอันตรายต่างๆโดยมือข้างหนึ่ง จะถือหอกเป็นอาวุธ ส่วนอีกข้างหนึ่งถือเจดีย์อันเล็กๆ สำหรับศาลเจ้าประจำของท่านนั้นอยู่ที่ วัดโทจิ จังหวัดเกียวโต มีความโดดเด่นอยู่ที่เจดีย์ 5 ชั้น สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งเด่นเป็นสง่าเห็นแต่ไกลนั่นเอง พระแม่โพสพ
ฟุกุโรกุยู เทพแห่งความสุข ความมั่งคัง และอายุยืน
เป็นเทพอาวุโสมีเครายาว หน้าผากสูง มีสมุดที่บันทึกอายุขัยของมนุษย์บนโลก มักพบท่านพร้อมกับ นกกระเรียน เต่า รวมถึงกวางดำ ซึ่งมีความเชื่อว่ากวางที่อายุ 2000 ปี จะเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ แห่งอายุที่ยืนนานทั้งสิ้น
เทพองค์นี้ของญี่ปุ่น อันที่จริงต้องถือว่าเป็นการ ควบรวมเทพของจีนโบราณสามองค์ เข้าด้วยกัน คือ ฮก ลก ซิ่ว หรือ ฝู ลู่ โซ่ว ในสำเนียงจีนกลาง (ชื่อ ฟุกุ โรกุ ยุ ก็คือคำจีนว่า ฮก ลก ซิ่ว นั่นเอง และความหมายก็ตรงกัน) แต่รูปลักษณ์ภายนอกของท่าน ใกล้เคียงกับเทพซิ่ว หรือเทพอายุวัฒนะของจีนมากที่สุด
ตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่นเบ็นไซเต็ง หนึ่งในเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด
เบ็นไซเต็ง หรือที่เรียกอย่างสั้นว่า เบ็นเต็ง เป็นเทพีองค์หนึ่งตาม คติพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่น เป็นเทพีองค์เดียวกับพระสรัสวดี ของคติศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คติการนับถือ เบ็นไซเต็ง เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-8 ผ่านการแปล สุวรรณประภาสสูตร จากภาษาจีนสู่ญี่ปุ่น
โดยเนื้อหาให้พระคัมภีร์ดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับเบ็นไซเต็ง และยังปรากฏใน สัทธรรมปุณฑรีกสูตร ที่ปรากฏองค์พร้อมกับ เครื่องดนตรีญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า บิวะ ต่างกับพระสรัสวดีที่ถือ วีณา เบ็นไซเต็ง เป็นหนึ่งในเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด
และเป็นเทพีแห่งกวี อักษรศาสตร์ นาฏกรรม และดนตรี เชื่อกันว่าผู้ใดนับถือเทวีพระองค์นี้ ก็จะพบแสงสว่างแห่งปัญญา ในอดีตเกชะนิยมบูชาเบ็นไซเต็ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้มี ความสามารถเชิงระบำรำฟ้อน ส่วนพวกตีนแมวและพวกย่องเบาเอง ก็นิยมบูชาเทวีพระองค์นี้เช่นกัน เพราะเชื่อว่าเบ็นไซเต็ง จะดลบันดาลให้ภารกิจ ลุล่วงไปด้วยดี
เท็งงุ เทพผู้ปกป้องป่าเขา
เท็งงุ เทพเจ้าที่มักปรากฏกายในรูปร่าง คล้ายมนุษย์ มีจมูกยาวโต ใส่รองเท้าเกี๊ยะ และมีปีก เป็น 1 ในเทพเจ้าญี่ปุ่นที่ไม่ได้เริ่มต้น จากการเป็นเทพมาตั้งแต่แรก แต่เดิมถูกจัดให้เป็นศัตรู ของศาสนาพุทธ เพราะคอยจับตัวพระผู้เผยแผ่ศาสนา ไปเสมอๆ
ปัจจุบัน เท็งงุ ถูกยกย่องให้เป็นผู้ที่คอย ปกป้องป่าและภูเขา หลายๆแห่งก็ไม่ได้นับเป็นเทพเจ้า เป็นเพียงปิศาจหรือภูติเท่านั้น แต่สำหรับวัดหลายแห่ง ที่อยู่ในป่าเขานั้น ก็ยกย่องให้เป็นเทพเจ้า สำหรับสถานที่สำคัญของ เท็งงุนั้นอยู่ที่วัดยาคุโออิน บนเทือกเขาทาคาโอะ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเขาที่มี เท็งงุอาศัยอยู่ ไฮไลท์อยูที่หน้ากากเท็งงุ ขนาดยักษ์ที่ประดับไว้ทั้งสองฟาก ของโบสถ์